“จ่าทุย”ชี้แจงกรณี "บัวขาว ขึ้นเวทีชกรายการไทยไฟท์ เมื่อวันที่ 17 เม.ย.ที่ผ่านมา จนเหตุการณ์บานปลาย

“จ่าทุย”ชี้แจงกรณี "บัวขาว ขึ้นเวทีชกรายการไทยไฟท์ เมื่อวันที่ 17 เม.ย.ที่ผ่านมา จนเหตุการณ์บานปลาย

เมื่อวันที่ 26 เม.ย.ที่อาคารัฐสภา2 นางนฤมล ศิริวัฒน์ ประธานคณะกรรมาธิการการกีฬาวุฒิสภา (ส.ว.) พร้อมด้วยกมธ.กีฬา เชิญ นายสกล วรรณพงษ์ รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ฝ่ายกีฬาอาชีพและสิทธิประโยชน์ “จ่าทุย” พ.อ.อ.อัทธ์พงศ์ อ่ำอนันต์ นายวิษณุ อ่ำอนันต์ โปรโมเตอร์ประกบคู่มวยไทยไฟต์ เข้าชี้แจงกรณี "บัวขาว ป.ประมุข" หรือ “ แบล็กโกลด์”นายสมบัติ บัญชาเมฆ ยอดนักมวยไทยชื่อดัง ขึ้นเวทีชกรายการไทยไฟท์ เมื่อวันที่ 17 เม.ย.ที่ผ่านมา จนเหตุการณ์บานปลายถึงขั้น ค่าย ป.ประมุข ของ ′′กำนันแก๊′′ ประมุข โรจนตัณฑ์ ต้นสังกัด เดินหน้าฟ้อง บัวขาว และ บริษัท สปอร์ต อาร์ต ผู้จัดศึกมวยไทยไฟต์ ข้อหาทำผิดพ.ร.บ.มวย

“จ่าทุย” พ.อ.อ.อัทธ์พงศ์ กล่าวว่า ตนขอยืนยันอีกครั้งว่าการชกดังกล่าวมีการตกลงทำความเข้าใจกันระหว่างบัวขาว ค่ายป.ประมุข มานานแล้วตั้งแต่เดือน ม.ค.55 ฝ่ายจัดจึงดำเนินการวางแผนทุกอย่างตามขั้นตอน ทั้งยังเช่าสถานีโทรทัศน์เพื่อถ่ายทอดสด ทั้งยังดำเนินการโปรโมทอย่างต่อเนื่องกระทั่งเกิดความขัดแย่งขึ้นระหว่างบัวขาว กับค่ายป.ประมุข ซึ่งก่อนหน้านี้มีกระแสว่า ฝ่ายจัดฯเป็นมือที่สาม ซึ่งตอนนี้ทราบกันดีแล้วว่า มือที่สามเป็นใคร ไม่ใช่ฝ่ายจัดแข่งขัน อีกทั้งปัญหาดังกล่าวเกิดจากคู่กรณีบัวขาวกับต้นสังกัด ทางฝ่ายผู้จัดจึงต้องตัดสินใจเลือกทางออกที่ดีที่สุดคือการส่งบัวขาวขึ้นชก ยอมกระทำผิดพ.ร.บ.ดีกว่าโดนปรับเรียกค่าเสียหายหลายสิบล้าน ซึ่งตนไม่มีเงินมหาศาลขนาดนั้นไปเสียค่าปรับแน่นอน

“เราวางแผนจัดไทยไฟท์ตั้งแต่ต้นม.ค.ทั้งบัวขาวและค่ายต้นสังกัดทราบดีรู้ทุกขั้นตอน กระทั่งมี.ค.เกิดทะเลาะและขัดแย้งกัน เราก็ไม่ได้เข้าไปยุ่ง ไม่ใช่เรื่องของบ้านเรา ในที่สุดก็ส่งหนังสือไม่ให้บัวขาวขึ้นชก กระทั่ง 2 วันก่อนขึ้นชกจริงผมให้สิทธิ์บัวขาวตัดสินใจว่าจะชกหรือไม่ ถ้าไม่ชกก็ขึ้นโชว์รำมวยไทย แต่บัวขาวยืนยันว่าจะขึ้นชก จึงเรียกผู้จัดการของนักมวยชาวรัสเซียทำความเข้าใจ สุดท้ายลงกันได้ จึงชั่งน้ำหนัก ส่วนกรณี ไทรโยค พุ่มพันธ์ม่วง ยังไงก็ขึ้นชกไม่ได้ ถ้าชกก็ผิด พ.ร.บ. มวย จึงต้องตัดสินใจให้บัวขาวขึ้นชก เลือกทำผิดพ.ร.บ.ถูกยึดใบอนุญาตดีกว่าถูกปรับเป็นสิบๆล้าน ถ้ายึดไปผมก็อยู่ได้ ถึงกำหนดก็วางแผนจัดใหม่ แต่หากถูกปรับตรงนี้จะอยู่ไม่ได้ทั้งไม่รู้จะเอาเงินที่ไหนมาให้อยู่ลำบากแน่”

“จ่าทุย” พ.อ.อ.อัทธ์พงศ์ กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องการชกรายการดังกล่าวค่าย ป.ประมุขทราบดี เพราะคนของค่ายได้ลงนามเป็นพยานให้บัวขาวเข้าสังกัด สปอร์ต อาร์ต จำกัด แม้ในเอกสารจะไม่ระบุช่วงเดือนเม.ย.แต่ยืนยันว่าทุกฝ่ายทราบว่าจะมีการชกในวันที่ 17 เม.ย. เราจัดงานก่อนที่ทั้งคู่จะทะเลาะกัน ทั้งคู่รู้ตั้งแต่ต้น หากเรารู้ว่ามีปัญหาก่อนจัด เราไม่เสียมารยาทถึงขนาดดึงบัวขาวมาชก ก่อนหน้านี้ความสัมพันธ์ดีมาก กระทั่งเกิดเหตุแทบมองไม่เห็นหัวกัน ที่สำคัญทางค่าย ป.ประมุข ส่งเอกสารใบรับรองแพทย์จากโรงพยาบาลแห่งหนึ่งมาส่งเมื่อวันที่ 10 มี.ค. ระบุว่า บัวขาวป่วย เจ็บระหว่างการฝึกซ้อม แต่เท่าที่ทราบหลังจากวันนั้นก็มีข่าวว่าบัวขาวหายตัวไป ระหว่างนั้นตนได้ติดต่อพูดคุยกับบัวขาวตลอด และบัวขาวก็ยืนยันว่าจะขึ้นชก ดังนั้นหากฟ้องร้องเราก็พร้อมที่ต่อสู้ทางกฎหมาย

ด้านนายสกลกล่าวว่า ติดตามเรื่องนี้มาโดยตลอด โดยในวันที่ 30 เม.ย.จะเชิญ บัวขาว กับ ฝ่ายจัดไทยไฟท์ มาชี้แจงพร้อมกับแจ้งข้อกระทำผิดพ.ร.บ.มวย และในวันที่ 2 พ.ค. เชิญค่าย ป.ประมุข และบัวขาวมาให้ข้อมูล ทั้งนี้ขั้นตอนแรกเราคงใช้มาตรการไกล่เกลี่ยให้ทุกฝ่ายยอมความกันก่อน ส่วนเรื่องเอาผิดตามพ.ร.บ.ต้องดำเนินการแน่นอน ซึ่งต้องถูกถอนใบอนุญาต แต่จะเท่าไหร่ขึ้นอยู่กับอนุกรรมการวินัยและจรรยาบรรณจะพิจารณา แต่ไม่เกิน 6 เดือน แต่ทั้งนี้เราต้องดูข้อเท็จจริงในหลายๆด้าน เพราะถ้าค่ายดูแลนักมวยไม่ดี นักมวยก็สามารถย้ายค่ายได้ เพราะพ.ร.บ.มวยระบุชัดเจนในมาตรา 14 วรรค 1

“ตอนนี้ยอมรับว่าพ.ร.บ.มวยมีช่องโหวไม่ชัดเจน ทั้งหลายฝ่ายยังมองว่าโทษเอาผิดคนขัดพ.ร.บ.ยังอ่อนไป เหมือนการหอมแก้ม มีไว้เพื่อให้คนแหกกฎ ดังนั้นจึงมีแนวคิดที่จะจัดสัมมนาเชิญค่ายมวยและนักมวยมาระดมสมอง สะท้อนปัญหา เพื่อนำมาประกอบการร่างพ.ร.บ.ขึ้นให้ เพื่อให้ทันสมัย และบังคบใช้อย่างได้ผลที่ชัดเจน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุดังกล่าวขึ้นอีก ที่สำคัญบทลงโทษต้องดูน่าเกรงขามกว่านี้”

นางนฤมล กล่าวว่า กรณีดังกล่าวสังคมให้ความสนใจดังนั้น กมธ.กีฬาต้องเชิญทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูลให้เกิดความชัดเจนยิ่งขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ทำนองนี้ขึ้นอีก โดยเอาปัญหาของบัวขาวเป็นกรณีศึกษา อย่างไรก็ตามการชี้แจงในวันนี้ได้ประโยชน์อย่างมาก ทั้งยังได้ข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารสัญญาของทุกฝ่าย จะได้ทราบทีมาของปัญหาว่าเกิดจากเหตุใด นอกจากนี้เพื่อให้เกิดความชัดเจนยิ่งขึ้นเราจะเชิญฝ่ายค่าย ป.ประมุข รวมทั้งบัวขาวมาให้ข้อมูล รวมถึงเชิญแพทย์ที่ออกใบรับรองว่า บัวขาวป่วยจริงหรือไม่ ทั้งจะสอบถามว่าบัวขาวเจ็บป่วยจริงหรือเปล่า เพราะหากไม่ป่วยจริงออกใบรับรองแพทย์ถือว่าผิดกฎหมายเช่นกัน ดังนั้นทุกอย่างต้องชัดเจนโปร่งใส ทั้งหมดนี้ กทธ.กีฬาจะรวบรวมข้อมูลเพื่อพิจารณา ก่อนส่งให้หน่วยงานที่รับผิดชอบไปดำเนินการแก้ไขให้ถูกต้อง โดยเฉพาะเรื่องแก้ไขพ.ร.บ.มวยให้ทันต่อโลก